“VL” เตรียมโรดโชว์ในประเทศ 4 จังหวัด ประเดิมเชียงใหม่วันนี้เป็นจังหวัดแรก

update 26/03/2562 10:00:00

“วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์” ลุยนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) เชื่อนักลงทุนให้การตอบรับดี ประเดิมโรดโชว์วันนี้ที่เชียงใหม่เป็นจังหวัดแรก พร้อมเดินหน้าโรดโชว์ขอนแก่น,หาดใหญ่ และกทม.

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเริ่มการนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน หรือ โรดโชว์ในประเทศรวมทั้งสิ้นจำนวน 4 จังหวัด

โดยในวันนี้ (25 มี.ค. 2562) บริษัทจะโรดโชว์ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดแรก หลังจากนั้นจะเดินทางไปโรดโชว์ที่จังหวัดขอนแก่นในวันที่ 26 มี.ค. 2562 และในวันที่ 28 มี.ค. 2562 ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และสุดท้ายจะมาปิดท้ายโรดโชว์ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 1 เม.ย. 2562

สำหรับ VL วางแผนระดมทุนในการเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ เพื่อลงทุนขยายกองเรือ โดยการลงทุนซื้อเรือดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการต่อเรือใหม่ หรือการซื้อเรือมือสองเพื่อนำมาให้บริการ อย่างไรก็ตามยังต้องพิจารณาสถานการณ์ และสภาวะตลาดในขณะนั้นควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งรวมต่อปีทั้งจากการเพิ่มปริมาณขนาดบรรจุขนส่งต่อเที่ยวเรือและเพิ่มจำนวนเที่ยวเรือ นอกจากนี้ยังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปซ่อมบำรุงตามแผน รวมถึงชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

“โดย VL จะโรดโชว์ทั้งสิ้นจำนวน 4 จังหวัด ซึ่งเป็นหัวเมืองใหญ่ของแต่ละภาคในประเทศไทย ที่มีจำนวนฐานนักลงทุนค่อนข้างมาก เพื่อนำเสนอข้อมูลก่อนเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยคาดว่าการเดินสายโรดโชว์ในครั้งนี้ จะได้รับการตอบที่ดีจากนักลงทุน” นายเอกจักร กล่าว

ขณะที่นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL กล่าวอีกว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 280 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดย VL จำนวน 200 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม คือ นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ จำนวน 80 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 และร้อยละ 10 ตามลำดับ ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ และจะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)

สำหรับบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ โดยเป็นการขนส่งทางทะเล ซึ่งสินค้าหลักแบ่งออกเป็น 5ประเภท ได้แก่ น้ำมันดิบ น้ำมันเตา น้ำมันใส น้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันปาล์ม

อีกทั้งบริษัทมีการให้บริการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้กับบริษัทคู่ค้าที่ทำธุรกิจผู้ค้าน้ำมันเป็นหลักซึ่งต้องการผู้ให้บริการขนส่งทางเรือที่มีมาตรฐานสูง โดยในปัจจุบันบริษัทมีเรือเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจทั้งหมด 12 ลำ ซึ่งกองเรือมีอายุเฉลี่ยประมาณ 16 ปี ประกอบกับยังมีน้ำหนักบรรทุกเรือรวม 35,081เดทเวทตัน (DWT) และมีความสามารถในการบรรจุน้ำมันเพื่อขนส่งรวมอยู่ที่ 36,036 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีความสามารถในการขนส่งติดอันดับ 4 ของประเทศ